ตื่นตาอย่างเดียวไม่พอ! เทคโนโลยี Interactive ช่วยเก็บข้อมูลทางการตลาดได้อย่างไร

any i media • 29 มิถุนายน 2566


ในปัจจุบัน ข้อมูล คือ สิ่งที่หลายธุรกิจให้ความสำคัญอย่างมาก จากรายงานนิตยสาร Forbes กล่าวว่า กว่า 59% ของธุรกิจที่ได้นำข้อมูลมาใช้ประกอบการตัดสินใจ ทั้งในกิจกรรมทางการตลาด รวมไปถึงด้านอื่น ๆ พบว่ามีการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถรู้พฤติกรรมเชิงลึก และทำการวิเคราะห์แนวโน้มของกลุ่มเป้าหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ในบทความนี้ any i จะพามาทำความรู้จักกับ เทคโนโลยี Interactive ช่วยเก็บข้อมูลทางการตลาดได้อย่างไรมาฝากกัน 



การเก็บข้อมูลทางการตลาด ผ่านเทคโนโลยี Interactive คืออะไร ?

 


การเก็บข้อมูลทางการตลาด คือ หนึ่งในกระบวนการวิจัยทางการตลาด เพื่อนำข้อมูลที่ได้โดยตรงจากกลุ่มผู้ใช้งานจริง ไปวิเคราะห์ ตัดสินใจ วางแผนงานบริหารที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ๆ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีแนวโน้มค่อนข้างแม่นยำ และตรงกับ Pain Point ของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้โดย สัมภาษณ์โดยตรงแบบตัวต่อตัว, การเก็บข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย, การใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม รวมไปถึงการทำแบบสำรวจ เป็นต้น 

และในส่วนของเทคโนโลยี Interactive นั้นคือ สื่อปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัส และโต้ตอบกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้โดยตรง ทำให้เกิดการมีส่วนร่วม และได้รับข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการนำสื่อข้อความ ภาพ วิดีโอ และเสียง มาปรับใช้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างผู้ใช้ กับระบบโปรแกรม ซึ่งเป็นตัวช่วยให้เกิดเรียนรู้ และตอบกลับในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การมองเห็น หรือการสัมผัส เป็นต้น โดยเมื่อนำทั้งสองส่วนนี้มารวมกัน จะช่วยให้นักการตลาดสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว   



เทคโนโลยี Interactive ช่วยเก็บข้อมูลทางการตลาดได้อย่างไร ? 

การเริ่มเก็บข้อมูล จำเป็นต้องสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ของกลุ่มเป้าหมายกับสื่อหรือสิ่งที่เราต้องการจะได้ข้อมูลมาก่อน ดังนั้น เทคโนโลยี Interactive ที่มุ่งเน้นการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สามารถช่วยเก็บข้อมูลทางการตลาดได้เป็นอย่างดี 


ตัวอย่างเทคโนโลยี Interactive ที่สามารถช่วยเก็บข้อมูลทางการตลาด 

1. แอปพลิเคชันเกี่ยวกับงานอีเวนต์ (Mobile Event Apps)

 


นักจัดกิจกรรมสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Mobile Event Apps ที่สร้างขึ้นมาสำหรับงานอีเวนต์ เพื่อ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน โดยมีฟีเจอร์ ต่าง ๆ อย่างเช่น การลงทะเบียนเข้างาน ผ่านแอปพลิเคชันโดยที่ ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องกรอกข้อมูลเพื่อทำการสร้างบัญชีตามที่ธุรกิจต้องการอย่าง ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล รวมไปถึงข้อมูลติดต่ออื่น ๆ, การทำ Interactive Map ภายในงาน Event ทำให้ธุรกิจสามารถทราบได้ว่าจุดไหนมีผู้ใช้งานสนใจมากที่สุดผ่านการค้นหาบนแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีการเช็กอินในบูธต่าง ๆ การกรอกฟอร์มสำรวจ รวมไปถึงยังสามารถติดตามจำนวนการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Session ไหนมีผู้ใช้งานมากที่สุด หรือ ตอนนี้มี Active User จำนวนเท่าไหร่และมีส่วนร่วมใน Apps จำนวนกี่คน เป็นต้น 



2. Interactive Touchscreens and Kiosks

 


การนำ Interactive Touchscreens และ ตู้ Kiosks วางในจุดที่คาดว่ามีกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด หรือจุดยุทธศาสตร์ภายในงานอีเวนต์ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมงานมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เช่น การให้ข้อมูลภายในงานอีเวนต์ผ่าน Interactive Touchscreens ตั้งแต่ทางเข้า เป็นการให้ข้อมูลผู้ชมได้ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในงาน ทำให้ทราบว่าภายในอีเวนต์นั้นมีอะไรบ้าง รวมไปถึงธุรกิจยังจะได้เก็บข้อมูลในส่วนนี้ ผ่านการมีส่วนร่วม ของกลุ่มเป้าหมายผ่านหน้าจอ Interactive เช่น ทำให้ทราบได้ว่า ข้อมูลส่วนไหนของงานที่ถูกเรียกชมจากผู้ใช้มากที่สุด เป็นต้น 



3. Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR)

 


เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) นี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานให้แก่หลากหลายธุรกิจเป็นอย่างมาก ด้วยการสร้างความดื่มด่ำ (Immersive) และ ประสบการณ์การโต้ตอบอย่างเหนือระดับ (Interactive Experiences) ผ่านสถานการณ์เสมือนจริง ในส่วนนี้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลได้จาก ปฏิกิริยาโต้ตอบ (Reaction), รูปแบบพฤติกรรมต่อสื่อที่ธุรกิจนำเสนอ รวมไปถึงความชอบสนุกสนานขณะใช้งาน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ สามารถใช้แอปพลิเคชัน AR ให้ลูกค้าเห็นภาพว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ หากนำไปวางในบ้านของตนจะมีลักษณะอย่างไร นอกจากได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับความชอบของลูกค้าแล้วนั้น ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การชอปปิงโดยรวมอีกด้วย 



สรุป ตื่นตาอย่างเดียวไม่พอ! เทคโนโลยี Interactive ช่วยเก็บข้อมูลทางการตลาดได้อย่างไร 

เทคโนโลยี Interactive เข้ามาส่งเสริมการเก็บข้อมูลทางการตลาดได้เป็นอย่างมาก ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลเชิงลึก นำมาวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกลยุทธ์หรือแผนงาน ผ่านการใช้แอปพลิเคชันเกี่ยวกับงานอีเวนต์ (Mobile Event Apps) การใช้ Interactive Touchscreens และ Kiosks รวมไปถึง Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ที่สามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถได้รับข้อมูลต่าง ๆ และนำมาตัดสินใจ ปรับปรุงประสบการณ์ที่เหมาะสมให้กับกลุ่มเป้าหมาย และก้าวเข้าสู่แนวหน้าในการแข่งขันของแวดวงธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น 


หากคุณอ่านคอนเทนต์ "ตื่นตาอย่างเดียวไม่พอ! เทคโนโลยี Interactive ช่วยเก็บข้อมูลทางการตลาดได้อย่างไร" แล้วรู้สึกชอบคอนเทนต์ของเราอย่าลืมกดติดตามคอนเทนต์ของเราดี ๆ ได้ที่เว็บไซต์ any i หรือผ่านช่องทาง Facebook ได้ที่: Any i - Virtual Technology สำหรับ New Normal 


หากธุรกิจใดที่ต้องการเริ่มต้นการขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Interactive ในงานอีเวนต์ หรือ AI เข้ามาใช้ในการจัดงาน รวมไปถึงต้องการการขยายธุรกิจด้วยการใช้ Virtual Tech สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก any i ผ่านช่องทางแชทบนหน้าเว็บไซต์ 

Email: khem@anyimedia.com 

ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ 


ที่มา: 

Simplilearn 

Majesteye 

ตู้เกม Interactive สำเร็จรูป จบทุกโจทย์อีเวนต์ รวดเร็ว คุ้มค่า ปรับแต่งได้ตามแบรนด์
โดย any i media 11 เมษายน 2568
ตู้เกม Interactive จาก any i ปรับแต่งได้ตามต้องการ สร้างความสัมพันธ์ดี ๆ และเก็บข้อมูลลูกค้าในงานอีเวนต์
เกมส์อีเว้นท์ Case Study ไอเดียตู้เกม Interactive เพิ่ม Traffic ในงานที่แบรนด์ดังเลือกใช้!
โดย any i media 21 มีนาคม 2568
เกมส์อีเว้นท์จาก any i ที่แบรนด์ดังเลือกใช้ ทั้ง Air Touch และ Touchscreen พร้อมเทคนิคเพิ่ม Traffic ในอีเว้นท์อย่างมีประสิทธิภาพ
ตู้ถ่ายรูป ราคาสุดคุ้ม AI SNAP พร้อม Photo Wall อัปเกรดความปังให้อีเวนต์
โดย any i media 14 มีนาคม 2568
ตู้ถ่ายรูป AI SNAP ราคาสุดคุ้มพร้อมภาพถ่าย AI ที่สวยล้ำและจอแสดงผล Photo Wall สร้างความอิมแพคในงานอีเวนต์
Show More
Share by: