หลายแบรนด์จัดงานอีเวนต์ต่างมีความต้องการให้ลูกค้า หรือ ผู้มาร่วมงาน ได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความน่าจดจำเกี่ยวกับแบรนด์ จะดีไหม ? หากนำเทคนิคที่สามารถสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำ มาเพิ่มความแตกต่างแต่ยังมีความน่าสนใจ ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดงานนั้นให้ดียิ่งขึ้น
บทความนี้
any i มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ 3 เทคนิคสร้าง Unforgettable Experiences เพื่อเสริมภาพลักษณ์ และการจดจำ ที่จะทำให้คุณเป็นตัวตึงด้านงานอีเวนต์ มาฝากกัน
Experiences มีความหมายว่า ประสบการณ์ ส่วนคำว่า Unforgettable แปลว่า ที่น่าจดจำ เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกันจึงกลายเป็นคำว่า “Unforgettable Experiences” ที่หมายถึง การสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยในหลายธุรกิจที่มีการจัดงานอีเวนต์ ได้ตั้งเป้าหมายของการจัดงาน เช่น การเพิ่มประสบการณ์ที่ดี และเพิ่มความน่าจดจำของแบรนด์ต่อลูกค้า หรือ ผู้ที่เข้ามาร่วมงาน ดังนั้น เพื่อให้เป้าหมายนั้นบรรลุวัตถุประสงค์ ธุรกิจจึงต้องหาเทคนิค หรือ กลยุทธ์ต่าง ๆ เข้ามาใช้ร่วมกับการจัดงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดงาน Event ให้ดียิ่งขึ้น
โดยอาจใช้เทคโนโลยี หรือ ข้อมูลต่าง ๆ ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของแบรนด์
ได้จากการจัดงานอีเวนต์ที่มีความแปลกใหม่ เกิดความดึงดูด น่าสนใจ ทำให้ผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมบอกต่อ และเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่มากขึ้น
ให้ลูกค้าเกิดภาพจำของแบรนด์ที่ดี เพิ่มความรู้สึกชื่นชอบ ผ่านการใช้เทคนิคต่าง ๆ มาทำให้การจัดงานมีความหลากหลาย
เมื่อมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้อาจจะช่วยสร้างมุมมองให้ธุรกิจดูมีความทันสมัยมากขึ้น มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าสนใจ มีความใหม่เป็นอันดับแรก ๆ ของตลาดการจัดงาน
งานอีเวนต์มีการพัฒนาควบคู่ไปพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยการนำเทคนิคต่าง ๆ มาใช้กับการจัด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้าได้แล้ว ยังช่วยให้แบรนด์มีการพัฒนา และปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
เทคโนโลยี
Interactive หรือ สื่อปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัส และ โต้ตอบกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้โดยตรง ทำให้เกิดการมีส่วนร่วม และได้รับข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการนำสื่อข้อความ ภาพ วิดีโอ และเสียง มาปรับใช้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างผู้ใช้ กับโปรแกรม ให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับแบรนด์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่มีความหมายและน่าจดจำมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น Interactive Wall, Interactive Floor หรือ Interactive Table ซึ่งข้อดีของการนำเทคโนโลยี Interactive มาใช้ในการจัดงานอีเวนต์ คือ
การออกแบบทัศนียภาพ (Scenic Design) ช่วยเพิ่มสีสันสร้างความสวยงามสมจริงให้กับพื้นที่ในการจัดงานโดยมีการนำเทคโนโลยีทั้ง AR (Augmented Reality) หรือ เทคโนโลยีความจริงเสริม เป็นการผสมผสานโลกเสมือน ผ่านการรวมสภาพแวดล้อมจริง (Physical World) กับ วัตถุเสมือน (Virtual) เข้าด้วยกัน และการนำเทคโนโลยีแบบ VR (Virtual Reality) คือ เทคโนโลยีเสมือนจริง ผ่านการจำลองสถานการณ์จริงออกมาให้อยู่ในรูปแบบ 3 มิติ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมเหมือนจริงได้แบบ 360 องศา โดยจะมีอุปกรณ์การใช้งาน คือ แว่นตา VR หรือ VR Headset ที่ช่วยให้เราได้เข้าถึงประสบการณ์ใหม่ ๆ ของโลกอีกใบได้อย่างสมจริง
ปัจจุบัน
AI เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้จัดงาน และลดการใช้ทรัพยากรในการดำเนินงาน ซึ่งธุรกิจ Event ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอด เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการจัดงานมากยิ่งขึ้น เช่น การประมวลผลออกมาเป็นภาพ การออกแบบดีไซน์ Product และการออกแบบภาพจำลองต่าง ๆ โดยใช้วิธีการ
กรอกข้อมูลรายละเอียดที่ต้องการ จากนั้นรอให้ AI
ประมวลผล และผลิตชิ้นงานออกมา เป็นการนำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาดำเนินงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาน่าประทับใจ โดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI มีบทบาทในงานอีเวนต์ เช่น
เมื่อธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า หรือ ผู้เข้ามาร่วมงานแล้ว แบรนด์จะมีภาพจำที่ดี ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ต่อธุรกิจ เช่น รู้สึกว่ามีความทันสมัย จากการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ให้ได้ทำกิจกรรม ทั้งนี้เมื่อเกิดความรู้สึกประทับใจแล้ว การบอกต่อ หรือ การพูดถึงจะทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำ มีผู้คนเข้ามาให้ความสนใจมากขึ้น ทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่
อีกหนึ่งเป้าหมายทางการตลาดของธุรกิจการจัดงานอีเวนต์ คือ การเพิ่มประสบการณ์ที่สร้างการจดจำให้กับลูกค้าต่อแบรนด์ หรือ Unforgettable Experiences นั้นสามารถนำเทคนิคต่าง ๆ มาใช้ร่วมกับการจัดงานเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดี ปัจจุบันนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ผสมผสานกับการจัดงานอีเวนต์ เช่น เทคโนโลยี Interactive ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัส และ โต้ตอบกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้โดยตรง หรือ การออกแบบทัศนียภาพโดยใช้เทคโนโลยี AR, VR ผ่านการจำลองสถานการณ์จริงออกมาให้อยู่ในรูปแบบความจริงเสริม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง รวมไปถึงการนำ เทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ออกแบบประมวลผลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เทคนิคทั้ง 3 นี้นอกจากจะช่วยเพิ่มประสบการณ์น่าจดจำแล้ว ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถทำให้การจัดงาน Event นั้นบรรลุวัตถุประสงค์ และเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดงานได้ดียิ่งขึ้น
หากท่านใดที่อ่านบทความนี้แล้วสนใจในการนำเทคโนโลยี Interactive หรือ AI เข้ามาใช้ในการจัดอีเวนต์ รวมไปถึงต้องการการขยายธุรกิจด้วยการใช้ Virtual Tech สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก
any i ผ่านช่องทางแชทบนหน้าเว็บไซต์
Email: khem@anyimedia.com
ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ
AREA OF SERVICE
Bangkok, Thailand
PHONE
061-023-7370
khem@anyimedia.com