ด้วยความชอบของลูกค้าที่มีวิธีการเลือกซื้อสินค้าที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบที่จะดูรูปภาพ วิดีโอ ชอบฟังเสียง ชอบการที่เห็นได้ด้วยตาและสัมผัสด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส โดยธุรกิจสามารถใช้สิ่งเหล่านี้มาเป็นกลยุทธ์ของการทำการตลาดเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีและดึงดูดลูกค้าได้ บทความนี้ any i มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ผ่าน Virtual Store ที่ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ มาปรับปรุงการนำเสนอสินค้า และ บริการ ผสานร่วมกับการทำ Sensory Marketing ในการทำการตลาดเชิงประสบการณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบรนด์
Sensory Marketing เกิดจากคำว่า ‘Sense’ ที่หมายถึงประสาทการรับรู้ทั้ง 5 ของมนุษย์ ประกอบด้วย รูป ภาพที่มองเห็นด้วยตา รส ที่รับรู้ได้ด้วยลิ้น กลิ่น ที่สัมผัสได้ด้วยจมูก เสียง ที่ได้ยินด้วยหู สัมผัส ที่ได้จากความรู้สึก เมื่อทำมาผสมรวมกับคำว่า ‘Marketing’ ที่หมายถึงการทำการตลาด
Sensory Marketing จึงจำกัดความได้ว่าเป็นกลยุทธ์การทำการตลาดที่ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ เพื่อดึงดูดประสาทสัมผัสอย่างน้อยหนึ่งอย่างในการกระตุ้นให้เกิดความสนใจให้เกิดการซื้อสินค้า และ บริการ ผ่านประสาทการรับรู้ของลูกค้า ซึ่งรวมถึงการสร้างบรรยากาศแวดล้อมที่มีผลต่อการรับรู้ของลูกค้าด้วยเช่นกัน
Virtual Store เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้าง Immersive Experience ที่สามารถเข้าถึงอารมณ์ของลูกค้า จากการได้สัมผัสกับแบรนด์ การสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ตื่นเต้นเกิดความดื่มด่ำ ทั้งการได้ยิน สัมผัส ได้กลิ่น รับรส หรือ เห็นภาพ โดยการเลือกประเภทของประสาทการรับรู้ทั้ง 5 ที่สอดคล้องกับแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เป็นที่จดจำ นอกจากนี้ Virtual Store ยังเป็นการสร้างความเพลิดเพลิน และ เพิ่มความสะดวกสบายผ่านการจำลองบรรยากาศสภาพแวดล้อมของร้านค้าที่เหมือนกำลังชอปปิงอยู่หน้าร้านออฟไลน์จริง ๆ มาให้สัมผัสผ่านออนไลน์ได้เพียงปลายนิ้วคลิก
การสร้างการมองเห็นแบบ 360 องศา ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Virtual Store ที่สามารถสร้างสรรค์พื้นที่การชอปปิงให้มาอยู่บนโลกออนไลน์ และยังสามารถส่งผ่านการรับรู้ด้วยการมองเห็นราวกับได้ไปเยี่ยมชมร้านค้าจริงด้วยตนเอง Virtual Store สามารถนำเสนอทั้งสินค้าและบรรยากาศภายในร้าน ผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) มาใช้ในการทำการตลาด อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพโดยนำการโต้ตอบในชีวิตจริงมาสู่ช่องทางออนไลน์ที่จะช่วยสร้างโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น
ร้านค้าเสมือนจริงของแบรนด์ Christian Dior ที่สามารถเยี่ยมชมได้แบบ 360 องศา
ภาพจาก: virtualstore.dior.com
ในการสร้างความรู้สึกที่มีเสมือนได้สัมผัสจริง Virtual Store สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม หรือ เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ เหมือนได้สวมใส่สินค้านั้นจริง ๆ อย่าง เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น หรือ ฟังก์ชันการทดลองจัดวางสินค้า อย่าง เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน ฯลฯ นอกจาก Virtual Store จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้แล้ว ยังเป็นส่วนที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น และช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอีกด้วย
แบรนด์ Tumi ที่ใช้มีฟีเจอร์ AR และการแสดงผลแบบ 3 มิติ
ภาพจาก: virtualstore.tumi-asia.com
Virtual Store สามารถนำเสียงดนตรีประกอบสร้างบรรยากาศระหว่างที่ลูกค้าเยี่ยมชมร้านค้าเสมือนจริงได้ นับว่าเป็นการสร้างการจดจำอีกรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความคุ้นเคย เป็นการทำให้เกิด Brand Message โดยการสื่อสารด้วยเสียง จากการใช้ดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เข้ามาเป็นสิ่งเร้าหนึ่งที่กระตุ้นอารมณ์และความทรงจำ เพื่อดึงดูดใจให้ลูกค้าตอบสนองกับกลยุทธ์ของธุรกิจ
ตัวอย่างของแบรนด์ Ralph Lauren ที่มีการใช้เสียงดนตรีประกอบภายใน Virtual Store
ภาพจาก: ralphlaurenvirtualstores.com
เรียกได้ว่า Virtual Store สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ในการดึงดูดลูกค้าผ่านประสาทสัมผัสการรับรู้ บนการทำการตลาดแบบออนไลน์ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนร้านค้าจริง ๆ และสอดคล้องกับกลยุทธ์การดึงดูดใจผ่าน Sensory Marketing สามารถสร้างประสบการณ์เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความพึงพอใจ กระตุ้นความสนใจ เป็นการเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น
หากธุรกิจใดที่ต้องการเริ่มต้นการขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Virtual Tech
สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก Any i ผ่านช่องทางแชทบนหน้าเว็บไซต์
Email: khem@anyimedia.com
ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ
ที่มา:
blog.shift4shop.com
blog.paperturn.com
AREA OF SERVICE
Bangkok, Thailand
PHONE
061-023-7370