AI ในอนาคต สำรวจเทรนด์และแนวโน้มปี 2025

any i media • 29 พฤศจิกายน 2567
AI ในอนาคต สำรวจเทรนด์และแนวโน้มปี 2025


ปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมว่า AI เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนไปเสียแล้ว ตั้งแต่การสื่อสาร การเดินทาง การดูแลสุขภาพ รวมทั้งการทำงานที่จะเป็นเครื่องมือสุดอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานของคุณ ที่สำคัญ AI ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดด ซึ่งอาจทำให้หลายคนสงสัยได้ว่า AI ในอนาคตจะไปสุดที่ตรงไหนกันแน่? 


ในบทความนี้ any i มีข้อมูลที่น่าสนใจมาอัปเดตเกี่ยวกับ  AI ในอนาคต สำรวจเทรนด์และแนวโน้มปี 2025 มาแนะนำเหล่าออร์แกไนเซอร์ และแบรนด์กัน จะมีเทรนด์อะไรบ้างนั้น ตามไปดูกัน 



AI ในตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว? AI ในอนาคต จะเป็นอย่างไรต่อไป? 


การเปิดตัว Generative AI อย่าง ChatGPT เมื่อ 2 ปีที่แล้ว กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้หลายบริษัทเทคโนโลยีต่างต้องการจะผลิตเทคโนโลยี AI เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Google ที่ได้พัฒนาผู้ช่วย AI อย่าง Bard ออกมาก่อนที่จะปรับปรุงระบบ และเปลี่ยนชื่อเป็น Gemini ที่อัจฉริยะมากขึ้น หรือจะเป็นอีกหนึ่งบริษัทคู่แข่งอย่าง Anthropic ที่ได้สร้างแชตบอตอย่าง Claude AI ที่สามารถตอบคำถามได้อย่างชาญฉลาด 


ด้วยเหตุนี้ ทำให้ AI ก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดด โดยมีการพัฒนาโมเดลเชิงสร้างสรรค์ให้สามารถสร้างข้อความยาว ๆ ภาพ เพลง รวมถึงผลงานชิ้นใหญ่ ๆ ได้ มีการพัฒนาอัลกอริทึมการเรียนรู้ให้มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูล และตัดสินใจได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจภาษามนุษย์ และสื่อสารกับผู้ใช้งานได้อย่างดี 


แม้ในปัจจุบัน เทคโนโลยี AI จะสามารถช่วยเหลือมนุษย์ได้มากขึ้นแล้ว แต่ในปี 2025 จะยังคงถูกพัฒนาให้อัจฉริยะขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ อีกทั้งจะเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิต และเป็นมิตรกับมนุษย์ในเชิงจริยธรรมมากขึ้น โดยจะขอเล่ารายละเอียดของเทรนด์ AI ในอนาคตในหัวข้อต่อไปนี้ 



เจาะลึกเทรนด์ AI ในอนาคต ปี 2025 มีอะไรบ้าง? 


1. การสร้างสรรค์วิดีโอด้วย AI ในอนาคต

 

การสร้างสรรค์วิดีโอด้วย AI ในอนาคต


เมื่อไม่กี่ปีมาก่อนนี้ Generative AI ได้รับการพัฒนาโมเดลใหม่ให้สามารถเข้าใจข้อมูลคำสั่ง (Prompt) จากผู้ใช้งาน และสร้างสรรค์เนื้อหาในรูปแบบ “ภาพ” ให้สวยงามได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ทำให้เทคโนโลยี AI นี้กลายเป็นเครื่องมือวาดภาพที่ช่วยลดระยะเวลาผลิต และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตภาพได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 


ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมต่าง ๆ กลับมีความคาดหวังเพิ่มสูงขึ้น อยากให้ภาพที่วาดจาก AI สามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิต เพื่อให้สามารถเอาผลงานไปใช้กับการทำงานได้อย่างที่ต้องการ เช่น วงการภาพยนตร์ และวงการโฆษณา ฯลฯ นั่นทำให้ในปี 2025 Generative AI ในอนาคตจะสามารถสร้างวิดีโอออกมาได้อย่างสร้างสรรค์โดยใช้โมเดลขั้นสูงช่วยผลิตผลงานออกมาตาม Prompt และคาดว่าจะเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้การผลิตภาพเคลื่อนไหวเพื่อใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 


เช่นเดียวกันกับ AI SNAP จาก any i ที่ได้ฉีกข้อจำกัดของตู้ถ่ายภาพ AI ให้สามารถสร้างสรรค์วิดีโอสั้นจากภาพนิ่งด้วย Generative AI ได้ โดยเทคโนโลยี AI นี้ เหมาะกับออร์แกไนเซอร์ และแบรนด์ต่าง ๆ ที่ต้องการสร้างความสนุก ประสบการณ์ใหม่ ๆ และภาพจำที่ดีให้กับผู้ร่วมงานอีเวนต์ได้อย่างดี 



ตัวอย่างตู้ถ่ายรูป AI SNAP ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ 


2. จะมีการใช้ Voice AI Assistant เพิ่มมากขึ้น 



จะมีการใช้ Voice AI Assistant เพิ่มมากขึ้น


AI Assistant ที่หลายคนคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เช่น Siri หรือ Alexa ติดข้อจำกัดที่ไม่สามารถตอบสนองกับผู้ใช้งานได้เป็นธรรมชาติ (ไม่เหมือนคนทั่วไปพูดคุยกัน) อาจส่งผลต่อความสามารถในการช่วยเหลือมนุษย์และประยุกต์ใช้กับการทำงานได้น้อยกว่าที่ควร 


จึงนำไปสู่แนวโน้มในปี 2025 ว่า AI ในอนาคตจะถูกพัฒนาให้เป็น Voice AI Assistance ที่สามารถสนทนากับมนุษย์ด้วยเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น ใช้คำพูดที่มนุษย์มักจะใช้ พูดขัดจังหวะได้ และตอบสนองกับผู้ใช้งานได้เร็วราวกับว่ากำลังพูดคุยกับมนุษย์อีกคน สิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมให้ AI ช่วยเหลือมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


นอกจากนี้ Voice AI Assistance จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การทำงานในยุคใหม่ง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถช่วยงานได้ตั้งแต่เขียนอีเมล เขียนโค้ด ขอคำแนะนำ รวมถึงแผนงานต่าง ๆ เพื่อยกระดับการทำงาน พร้อมกับสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานจากหลายอุตสาหกรรม



3. การใช้ AI ช่วยตัดสินใจอัตโนมัติแบบเรียลไทม์   


การใช้ AI ในอนาคตช่วยตัดสินใจอัตโนมัติแบบเรียลไทม์



เป็นอีกหนึ่ง AI ในอนาคตที่มีแนวโน้มว่า ธุรกิจต่าง ๆ จะนำ AI มาใช้กับในงานเชิงกลยุทธ์ที่ครบวงจรมากขึ้น โดยมีการออกแบบอัลกอริทึมช่วยตัดสินใจอัตโนมัติจากข้อมูลที่ได้รับแบบเรียลไทม์ จึงช่วยให้สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้า หรือตลาดที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุดกว่าที่ผ่านมา เปิดโอกาสปิดการขาย หรือปิดงานได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น 


  • งานโลจิสติกส์ จะมีการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดการสินค้าคงคลังให้เร็วขึ้น 
  • งานลูกค้าสัมพันธ์ จะใช้ AI ช่วยตอบคำถามให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เพื่อทำให้อีกฝ่ายซื้อสินค้า หรือใช้บริการได้เร็วขึ้น 
  • ธุรกิจประกัน มีเทคโนโลยี AI ที่สามารถดึงข้อมูลจากเอกสาร และประมวลผลการเคลมได้รวดเร็ว เพื่อปรับปรุงการให้บริการกับลูกค้าให้ดีขึ้น 


แต่ทั้งนี้ ธุรกิจจะต้องออกแบบขั้นตอนการทำงานให้ตอบโจทย์กับธุรกิจด้วยว่า ขั้นตอนไหนจะสามารถนำ AI ช่วยตัดสินใจแบบอัตโนมัติได้บ้าง และขั้นตอนอะไรที่ยังจำเป็นต้องใช้คนช่วยตัดสินใจข้อมูลอยู่ เพื่อให้สามารถแก้ปัญหา และบรรลุเป้าหมายได้ 


4. AI ในอนาคต กับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ 


AI ในอนาคต กับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์


ทุกวันนี้ การโจมตีทางไซเบอร์ยังคงเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของทุกคนอยู่บ่อยครั้ง และมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ยากที่จะรับมือ เช่น การสร้างมัลแวร์ (Malware) ในระบบคอมพิวเตอร์หวังให้ผู้ใช้งานเผลอกดมัลแวร์ เพื่อขัดขวางการทำงาน หรือเข้าถึงข้อมูลภายในระบบ รวมถึงการแอบติดตั้งแรนซัมแวร์ (Ransomware) เพื่อล็อกไฟล์สำคัญไม่ให้ผู้ใช้งานเปิดใช้ได้ และส่งข้อความเพื่อเรียกค่าไถ่จากผู้ใช้งาน ซึ่งหากไม่มีเครื่องมือช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ อาจส่งผลเสียต่อการทำงาน การเงิน และข้อมูลที่รั่วไหลได้ 


ทำให้ AI ในอนาคต ปี 2025 มีแนวโน้มว่าธุรกิจต่าง ๆ จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านไซเบอร์มากขึ้น โดยนำ AI มาพัฒนาอัลกอริทึมให้สามารถตรวจจับภัยคุกคามจากอาชญากรทางไซเบอร์ หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์ได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจอย่างร้ายแรง 


ขอยกตัวอย่างหนึ่งในเทคโนโลยี AI เป็นแชตบอตจำลองการโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing) ซึ่งเป็นการล่อลวงทางจิตวิทยาให้ผู้ใช้งานเปิดเผยข้อมูล ให้ผู้ใช้งานได้ฝึกรับมือ พร้อมกับสอนให้รู้วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ 


5. AI ในอนาคตจะเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันมากขึ้น 


AI ในอนาคตจะเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันมากขึ้น



AI ในปัจจุบันเข้ามามีบทบาทสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น สังเกตได้จากซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่มีการนำ AI มาใช้มากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตที่มีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ AI ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่สามารถเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ได้ขนาดนั้น 


any i จึงได้รวบรวมข้อมูลแนวโน้มในปี 2025 AI ในอนาคตจะถูกพัฒนาระบบให้ทำงานบูรณาการกับฟังก์ชันของเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องจักร รถยนต์ ผังเมือง โครงสร้างบ้าน และอื่น ๆ โดยที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เพิ่มแชตบอตเข้าไปอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตประจำวันที่สะดวกสบายมากขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 


ยกตัวอย่าง  เทคโนโลยี AI ในชีวิตประจำวัน ที่พบได้ในต่างประเทศ เช่น 


  • เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ที่มีการนำ AI มาช่วยปรับปรุงระบบจราจรให้เหมาะสม ดูแลจัดการการใช้พลังงานในแต่ละครัวเรือน รวมถึงการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น จะช่วยให้เมืองน่าอยู่มากขึ้น 
  • การขนส่งอัตโนมัติ ที่มีการนำ AI มาพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ โดรนส่งพัสดุ รวมถึงระบบการขนส่งสินค้าทีแม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น 
  • AI ในการศึกษา เช่น ระบบผู้ช่วยสอนอัจฉริยะ ที่สามารถตอบคำถามผู้เรียนได้ตลอดเวลา และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ ที่ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เรียน เพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ 



AI ในอนาคต กับมนุษย์จะอยู่ร่วมกันได้ไหม? 


การเข้ามาของ AI ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถ และฉลาดเหนือมนุษย์ ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตได้หลากหลายมิตินั้น อาจสร้างความกังวลใจให้กับทุกคนได้ว่า AI จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ อีกทั้งยังมีเรื่องผลกระทบด้านจริยธรรมอีกด้วย ซึ่งเราแทบจะเดาทางไม่ออกเลยว่า AI ในอนาคตจะเป็นอย่างไร และมนุษย์จะอยู่ร่วมกันกับ AI อย่างมีความสุขได้หรือไม่? 


any i จึงได้ไปสำรวจแนวโน้มการพัฒนา รวมถึงการใช้งาน AI ในปี 2025 พบว่า จะให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรมมากขึ้นในหลากหลายมิติ เพื่อช่วยให้มนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างไร้กังวล โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้ 


1. AI จะไม่รุกล้ำข้อมูลส่วนตัว 

ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในอนาคตจึงต้องมีการออกแบบระบบให้ปกป้องข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานมากขึ้น 


2. ความมั่นคงด้านการงาน 

ความจริงแล้ว AI ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด เพราะท้ายที่สุดแล้ว ข้อมูลที่ AI แสดงออกมาอยู่ในเงื่อนไขที่มนุษย์กำหนด ในขณะเดียวกัน มนุษย์ยังสามารถคิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์งานให้เกิดผลลัพธ์ใหม่ ๆ ได้ดีกว่า ในอนาคตจึงมีแนวโน้มว่า AI จะเป็นเครื่องมือช่วยทำงานมากกว่าการเข้าไปแทนที่มนุษย์ 


3. AI ในอนาคตที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น 

ในอนาคต หน่วยงานทุกภาคส่วนจะต้องมีความรับผิดชอบจากการใช้ AI มากขึ้น ทั้งเรื่องความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อลดความขัดแย้ง และผลกระทบต่อผู้ใช้งาน รวมถึงผู้รับข้อมูลที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า 


4. กฎหมายด้าน AI ในอนาคต 

สืบเนื่องจาก AI เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป ทำให้ในอนาคตจะมีหลายประเทศตรากฎหมายเพื่อจำกัดศักยภาพในการก่ออันตรายของ AI ภายใต้มาตรการต่าง ๆ เช่น การสร้าง Deepfake เพื่อป้องกันการหลอกลวงผู้อื่น การควบคุมการใช้งาน AI กับงานด้านการเงิน ที่จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของธนาคาร เป็นต้น


สรุป 


เทรนด์ AI ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 มีแนวโน้มที่จะช่วยผลิตผลงานให้มีความน่าสนใจ อำนวยความสะดวกให้การทำงาน และการใช้ชีวิตดีขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น การสร้างสรรค์วิดีโอด้วย AI การใช้ Voice AI Assistant การใช้ AI ช่วยตัดสินใจอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ การใช้ AI ป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึง AI ที่เชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตที่รอบด้านมากขึ้น นอกจากนี้ ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนจะยังให้ความสำคัญกับการใช้ AI ที่เป็นมิตรกับมนุษย์ในด้านจริยธรรมมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ AI สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ในอนาคตนั่นเอง   



ติดตามข่าวสาร และความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI จาก any i ได้ที่ 

Website:  www.anyimedia.com 

Facebook Fanpage: Any i - Virtual Technology สำหรับ New Normal 


หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI เพิ่มเติม สามารถติดต่อตามช่องทางนี้เพื่อรับคำปรึกษาจาก any i 

Email: contact@anyimedia.com 

LINE Official: @anyi   

เบอร์โทรศัพท์: 061-023-7370   

ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ 


ที่มา 


AI Assistant คืออะไร และตัวอย่างการนำไปประยุกต์ใช้งานในธุรกิจ จาก DIA 

AI’s future trends for 2025 จาก  We Are Tech Women 

ChatGPT เปิดตัวครบ 1 ขวบ เติบโตมาอย่างดีหรือไม่ สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรไปแล้วบ้าง? จาก ไทยรัฐ   

SMART CITY คืออะไร ประโยชน์-ข้อคำนึง และวิธีการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ จาก DIA 

The 10 Biggest AI Trends Of 2025 Everyone Must Be Ready For Today จาก Forbes 

6 การโจมตีทางไซเบอร์ (Cyber Attack) ที่ควรรู้จัก และวิธีรับมือ จาก True Digital Academy 

มารู้จักกับ “NLP” ที่ไม่ใช่ Neuro Linguistic Programming แต่คือ Natural Language Processing ตัวช่วยในการสื่อสารเพื่อให้คอมพิวเตอร์จะเข้าใจภาษามนุษย์ จาก Medium 



Roadshow Event ปัง ๆ ด้วยเทคโนโลยี Interactive
โดย any i media 14 กุมภาพันธ์ 2568
เพิ่มความน่าสนใจให้ Roadshow Event ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี Interactive กับแคมเปญการตลาด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและกระตุ้นยอดขาย
มัดรวม ตู้ถ่ายรูป Photobooth เอาไว้จัดงาน 3 แบบสุดปังที่ต้องลอง!
โดย any i media 24 มกราคม 2568
ยกระดับงานอีเวนต์ด้วยตู้ถ่ายรูป Photobooth AI จาก any i สร้างภาพและวิดีโอสุดล้ำ พร้อมแชร์ลงโซเชียลได้ทันที
เกมส์งานเลี้ยงบริษัท แบบ Interactive จุดกิจกรรม outing สนุก ๆ ด้วยเทคโนโลยี
โดย any i media 10 มกราคม 2568
แนะนำเกมส์งานเลี้ยงบริษัท แบบใช้เทคโนโลยี Interactive เข้ามาเสริมให้ดูน่าสนใจขึ้น และบอกต่อไอเดีย Interactive Game หลายรูปแบบ
Show More
Share by: