จะดีสักแค่ไหน ? หากธุรกิจได้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการจัดงาน เพื่อให้เข้ากับการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะช่วยมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ และความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าร่วมแล้ว สิ่งเหล่านี้อาจช่วยทำให้แบรนด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย บทความนี้ any i มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับจับตามองเทรนด์การจัดงาน พาชมการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี Interactive ในแต่ละธุรกิจ ที่กำลังมาแรง! มาฝากกัน
Interactive หรือ สื่อปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบแบบเรียลไทม์ คือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถเชื่อมต่อ และโต้ตอบกับเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต หรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการมองเห็น, การสัมผัส ที่จะแสดงผลของข้อมูลผ่านสื่อต่าง ๆ ในรูปแบบ ข้อความ, ภาพ, วิดีโอ และเสียง ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าว ได้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายธุรกิจ ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้แก่ผู้คนได้เป็นอย่างดี เช่น การนำไปใช้กับอุตสาหกรรมอีเวนต์ หรือ การจัดงานนิทรรศการ เป็นต้น
การนำเทคโนโลยี Interactive มาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมฟิตเนส
ภาพจาก Fitness-gaming
อุตสาหกรรมการออกกำลังกาย (Fitness Industry) อีกหนึ่งธุรกิจที่มีการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้ใช้งานกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมดังกล่าว ได้มีการนำเทคโนโลยี Interactive เข้ามาประยุกต์ใช้กับการจัดงานอีเวนต์ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเสมือนจริงด้วย VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) เพื่อยกระดับประสบการณ์การออกกำลังกาย และส่งเสริมสุขภาพให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างสนุกสนาน ตัวอย่างเช่น ระบบการฝึกอบรมจากแพลตฟอร์ม Holofit ที่ใช้เทคโนโลยีวิดีโอเกม มาสร้างพื้นที่การออกกําลังกายรูปแบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และมอบความตื่นเต้นให้แก่ผู้เข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง Interactive Fitness Event มักจะมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การแข่งขันระหว่างผู้ใช้งาน, การแข่งขันสร้างสรรค์โปรแกรมออกกำลังกาย, การออกกำลังกายร่วมกันในรูปแบบกลุ่ม เป็นต้น
การนำเทคโนโลยี Interactive มาประยุกต์ใช้กับพิพิธภัณฑ์
ภาพจาก Segd.org
ในปัจจุบันการนำเทคโนโลยี Interactive หรือ สื่อที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งาน มาใช้ในการจัดพิพิธภัณฑ์นั้นนับเป็นหนึ่งในวิธี ที่จะช่วยขยายการบรรยาย และเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในขณะเดียวกัน นอกจากจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับเนื้อหาภายในงานแล้ว ยังถือเป็นอีกเทคนิคสำคัญที่จะช่วยสร้างการรับรู้ และมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้เยี่ยมชมได้มากยิ่งขึ้น เช่น การนำภาพจัดแสดงภายในงาน มาปรับเปลี่ยนให้ดูมีมิติ โดยใช้เทคโนโลยีความจริงเสริม AR (Augmented Reality) ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพที่มีลักษณะเป็นวัตถุเสมือนจริง บนพื้นที่ของโลกแห่งความเป็นจริงอย่างเต็มรูปแบบ หรือจะเป็นการนำเทคโนโลยีเสมือนจริง VR (Virtual Reality) ที่ทำให้ผู้เข้าชมเกิดความสนใจ จากการจำลองสภาพแวดล้อมพิพิธภัณฑ์ ที่ช่วยให้ผู้เยี่ยมชม รู้สึกประทับใจ และอยากจะเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาของสถานที่มากขึ้น
นิทรรศการผลงานศิลปะของจิตรกรชาวดัตช์ Vincent Van Gogh
ภาพจาก Garamantis
อีกก้าวสำหรับการจัดงานนิทรรศการ หรือการแสดงสิ่งของ ที่มีการนำเสนอเนื้อหาด้วยเทคโนโลยี Interactive มาผสมผสานกับงานศิลปะ เพื่อเชื่อมต่อการสื่อสาร และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่ผู้เยี่ยมชมได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้เข้างานเกิดการมีส่วนร่วมได้มากขึ้นแล้ว Technology เหล่านี้ยังสามารถทำให้ผู้เยี่ยมชมรู้สึกดื่มด่ำกับรายละเอียดภายในงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์น่าจับตามองที่จะทำให้การนำเสนอเนื้อหาแบบเดิม ๆ มีความแปลกใหม่ หรือเป็นจุดสนใจได้ดีเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่น การจัดนิทรรศการศิลปะของจิตรกรชาวดัตช์ Vincent Van Gogh ในประเทศสิงคโปร์ ที่ได้นำผลงานกว่า 300 ชิ้น มาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี Interactive ในรูปแบบของ Immersive Multi-Sensory Experience หรือ การทำให้ผู้เยี่ยมชมได้รับรู้ถึงเสียง ภาพ กลิ่น รส หรือการสัมผัส ซึ่งช่วยมอบความน่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้คนอย่างน่าจดจำ
การจัดแสดงคอนเสิร์ตโดยใช้เทคโนโลยี Interactive
ภาพจาก Kayapi.org
ในปัจจุบัน การเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทําให้ศิลปินหรือนักแสดงสามารถสร้างประสบการณ์คอนเสิร์ตแบบโต้ตอบได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงจะหมายถึงผู้เยี่ยมชม ที่เข้ามาร่วมงานคอนเสิร์ตออฟไลน์เพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้ผู้ที่อยู่ระยะไกล สามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์ภายในงาน ผ่านการเชื่อมต่อด้วย Technology ต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย เช่น การนำเทคโนโลยี Interactive มาออกแบบเป็นคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็น การใช้ VR/AR มาเพิ่มมิติภายในงานคอนเสิร์ตให้น่าสนใจ, การจัด Live Streaming บนแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง หรือ การจัดงานผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่สมจริง และไม่พลาดทุกความสนุกในการจัดงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การจัดงานสำคัญที่เหล่าอุตสาหกรรมบันเทิงไม่ควรมองข้าม
การจัดแสดง AR Photobooth ภายในงานอีเวนต์
ภาพจาก Picturemosaics
เป็นการจัดงานกิจกรรม ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานมีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ผ่านการสร้างสถานการณ์จำลอง โดยใช้เทคโนโลยี Interactive เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประสบการณ์สมจริง และเข้าใจแนวคิด หรือวัตถุประสงค์ที่ผู้จัดงานต้องการสื่อสาร ซึ่งสามารถสร้างงานอีเวนต์ได้ทั้งแบบออนไลน์ เช่น การจัดอีเวนต์ผ่านแพลตฟอร์มเสมือนจริง, การถ่ายทอดสด (Live Streaming) ฯลฯ หรือการจัดกิจกรรมแบบออฟไลน์ เป็นต้น โดยในปัจจุบันงานอีเวนต์ส่วนใหญ่ จะเป็นการจัดแสดงแบบโต้ตอบ เพื่อดึงดูดให้ผู้คนเกิดการมีส่วนร่วม และมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้เยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็น การนำเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) หรือ AR (Augmented Reality) มาประยุกต์ใช้กับการจัดงาน เพื่อสร้างความแปลกใหม่ และมอบความสนุกสนานได้อย่างสมจริง เช่น การจัดตั้ง Interactive Wall, AR Photo booth หรือ VR Social Events เป็นต้น
การนำเทคโนโลยี Interactive มาประยุกต์ใช้ในการจัดงานต่าง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนา และเติบโตเพื่อให้เข้ากับการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้เข้าร่วมงาน ได้เต็มอิ่มกับประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือเพิ่มสีสันบรรยากาศจาก Technology ภายในงานแล้ว ยังทำให้ผู้จัดสามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกภายในงาน เพื่อวางแผนทางการตลาด ในการจัดงานครั้งต่อไปให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย
หากธุรกิจใดที่ต้องการเริ่มต้นการขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Interactive หรือต้องการจัดทำอีเวนต์ในรูปแบบเสมือน (Virtual Event) ร้านค้าเสมือนจริง (Virtual Store) สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก any i ผ่านช่องทางแชทบนหน้าเว็บไซต์
Email: khem@anyimedia.com
ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ
ที่มา:
Fitness Gaming
Garamantis
Trendhunter
AREA OF SERVICE
Bangkok, Thailand
PHONE
061-023-7370
khem@anyimedia.com