ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการชอปออนไลน์ สูงเป็นอันดับสามของโลก โดยอ้างอิงข้อมูลสถิติจากรายงาน Global Digital Stat 2021 ของ We Are Social และ Hootsuite จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ใคร ๆ ก็หันมาขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
แล้วแบบนี้แบรนด์ของเราจะโดดเด่นต่างจากคู่แข่งได้อย่างไรกันล่ะ ?
ในส่วนของบทความนี้ Any i ได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่การสร้างร้านค้าบนโลกออนไลน์ที่สามารถสร้างความแตกต่าง ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งาน อย่าง Virtual Store
ภาพจาก wearesocial.com
Virtual Store หรือ ร้านค้าเสมือนจริง คือการผสานร้านค้าจำลองบนโลกออนไลน์เข้ากับเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) โดยสถานที่ หรือ ร้านค้านั้นอาจมีอยู่จริงหรือ ไม่มีอยู่จริงก็ได้ โดยสามารถเข้าถึงผ่านเว็บไซต์ ด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แทปเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยไม่จำเป็นต้องสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมา ด้วยการมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณก้าวนำคู่แข่ง ในโลกของการทำธุรกิจยุคดิจิทัล
เพื่อมอบประสบการณ์การชอปออนไลน์ที่เหนือกว่า Any i จึงได้ต่อยอดระบบ Shelf Management ที่สามารถทำให้แบรนด์ จัดการ ควบคุม และดูแลข้อมูลต่าง ๆ ที่แสดงผลอยู่บนหน้า Virtual Store
Shelf Management คือ ระบบการจัดการสินค้าบน Virtual Store โดยมีผู้ควบคุม (Admin / Super Admin) เพื่อดูแลข้อมูลเนื้อหามีเดียต่าง ๆ ที่แสดงผลอยู่บนร้านค้าเสมือนจริง โดยเน้นไปที่การจัดการข้อมูลบนชั้นวางสินค้าเป็นหลัก
ขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวนำคู่แข่งด้วย Virtual Store ผสานกับพลังแห่ง DATA
การที่ธุรกิจใช้ Virtual Store สามารถวางแผนแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขาย รวมไปถึงการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ โดยใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Shelf Management เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย โดยข้อมูลที่ได้มานั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งาน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA
1. ระบบแอดมิน
เพื่อจัดการดูแลข้อมูลเนื้อหาต่าง ๆ บนหน้าร้านค้าของคุณ โดยสามารถเข้าถึงการแก้ไขข้อมูลได้ทันที หากประสบปัญหาขัดข้อง ไม่จำเป็นต้องรอผู้สร้างเว็บไซต์เพื่อแก้ไขข้อมูล ทำให้มอบประสบการณ์แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง แบบไม่สะดุด
2. ระบบจัดหมวดหมู่สินค้า และ รายการสินค้า
เป็นระบบจัดการสินค้า ตามหมวดหมู่ได้ด้วยตัวคุณเอง เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา และ อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้า หรือใช้บริการบน Virtual Store
3. การปรับเปลี่ยนข้อมูล และ ราคาสินค้า
สินค้า และ บริการ ที่แสดงอยู่ใน Virtual Store สามารถมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดได้อยู่เสมอ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกต่อการจัดการระบบหลังบ้านของแบรนด์ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. การปรับเปลี่ยนรูปภาพ และ วิดีโอ Ads / Banner
แบรนด์สามารถปรับเปลี่ยนภาพ หรือ วิดีโอที่แสดงผลอยู่บนหน้า Vitual Store ได้ทุกเมื่อ โดยไม่ต้องรอระยะเวลาในการขึ้นป้ายเหมือนกับ On Ground Store ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับข่าวสาร หรือ เทรนด์ที่กำลังเป็นกระแสได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้มากขึ้น
5. Pop-up Promotion
คือ การแสดงผลโปรโมชั่นในรูปแบบแบนเนอร์ (Banners) โดยจะแสดงผลขึ้นมาอัตโนมัติ เมื่อลูกค้าเข้าไปชมในจุดที่ได้ตั้งค่าไว้ โดยฟีเจอร์นี้ที่อยู่บน Virtual Store จะแสดงข้อความประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงและเป็นการสร้างโอกาสในการนำไปสู่การปิดการขายในที่สุด
การขับเครื่องธุรกิจของคุณด้วยข้อมูล หรือ Data-Driven โดยใช้ Virtual Store นั้นสามารถทำได้ด้วยการเก็บข้อมูลที่ลูกค้าได้เข้ามามีส่วนร่วม หรือ ปฏิสัมพันธ์ภายในร้าน ตั้งแต่เข้าร้าน การเยี่ยมชมจุดต่าง ๆ รวมไปจนถึงจุดที่มีการคลิก หยุดชมสินค้า และระยะเวลาที่ใช้ในการดูรายละเอียดโปรโมชัน ซึ่งแบรนด์สามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อทำความเข้าใจความต้องการลูกค้า ผ่านพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าบนหน้า Virtual Store และนำไปต่อยอดในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด
Virtual Store หรือร้านค้าเสมือนจริง สามารถมอบประสบการณ์อันแสนพิเศษแก่ลูกค้าคนสำคัญของคุณ อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้ธุรกิจมีความโดดเด่น สามารถสร้างภาพลักษณ์ และ ความจดจำแก่แบรนด์ ซึ่งมีระบบการจัดการภายใน Virtual Store ด้วย Shelf Management ที่จะช่วยให้จัดการสินค้าง่ายขึ้นด้วย และสามารถนำข้อมูล ที่ได้จากการเก็บข้อมูลบน Virtual Store มาต่อยอด เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวนำคู่แข่งในโลกของการตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน
ที่มา:
https:// wearesocial.com
AREA OF SERVICE
Bangkok, Thailand
PHONE
061-023-7370